โจรใต้ทำลายศรัทธาชาวอิสลามอย่างเลวร้าย

 การละหมาด ถือเป็นการปฏิบัติศาสนกิจอย่างหนึ่งในศาสนาอิสลาม เพื่อเป็นการภักดีต่ออัลลอฮฺ คือการเข้าเฝ้าอัลลอฮฺ นอกจากนี้ การละหมาดมิใช่เพียงแต่สามารถชำระบาปและสิ่งโสโครกเท่านั้น แต่การละหมาดยังสามารถสร้างเกราะป้องกันบาปอีกด้วย ดังดำรัสของอัลลอฮฺที่ว่า “แท้จริงการละหมาดสามารถยับยั้งมิให้กระทำความโสมมและความชั่ว” (อัลกุรอาน สูเราะฮฺ อัล-อันกะบูต : 45) ซึ่งใครก็ตามที่รักษาไว้ซึ่งการละหมาดเขาจะได้รับแสงสว่างและความสำเร็จในวันอาคิเราะฮฺ
แต่โจรใต้ทำลายความเชื่อความศรัทธาของอิสลาม โดยลอบฆ่ามุสลิมขณะกำลังละหมาด เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 17 มิ.ย.56 คนร้ายจำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน มาจอดที่หน้ามัสยิดดารุลฟาลา อ.รามัน จ.ยะลา โดยคนร้าย 2 คนได้ขึ้นไปบนมัสยิด ใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.อับดุลการิม ปะตะรู เสียชีวิต นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ โจรใต้จะกระทำสิ่งที่เลวทรามที่สุดต่อหน้าอัลลอฮ อย่างแน่นอน

โดย อับดุล

เหตุผลที่บีอาร์เอ็นให้รัฐถอนทหารคืออะไร?

เงื่อนไขของกลุ่ม บีอาร์เอ็น ครั้งที่ 4 ผ่านเว็บไซต์ยูทิวบ์เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มิ.ย.56 ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติ คือ 1. ต้องถอนกำลังทหาร และตำรวน ออกจากปาตานี 2. ต้องถอนทหารและทหารพรานออกจากเขตหมู่บ้านในปาตานี 3. ถอนกำลังตำรวจและตำรวจชายแดนออกจากเขตหมู่บ้านในปาตานี 4. ปล่อยบรรดา อส. ที่นับถือศาสนาอิสลาม (ไม่ให้ประจำการ) ตลอดช่วงเดือนรอมฎอน 5. ไม่ทำการโจมตี การสกัดถนน และการจับ/ควบคุมตัวอย่างเด็ดขาด 6. ไม่จัดกิจกรรมทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับเดือนรอมฎอน 7. ขอบเขตและเงื่อนไขดังกล่างต้องมีการลงนามของนายกรัฐมนตรี และต้องทำการประกาศในวันที่ 3 กรกฎาคม 2013

ประเด็นอยู่ที่ว่า กลุ่ม บีอาร์เอ็นต้องการให้รัฐบาลถอน ทหาร ตำรวจ ออกจากพื้นที่ เพราะเหตุใด เพราะไทยปฏิบัติเช่นเดียวกับทั่วโลก คือที่ใดมีผู้ก่อการร้ายสร้างสถานการณ์รุนแรง ที่นั่นย่อมต้องมี จนท.รัฐ เพื่อป้องกัน รักษาความปลอดภัย แต่เมื่อใดก็ตามสถานการณ์ความรุนแรงลดลง จนท.รัฐย่อมจะถอนทหารออกมา เพราะว่าไม่มีประโยชน์อันใดที่จะคงกำลังไว้ สิ่งนี้เราเห็นได้ในประเทศที่มีผู้ก่อการร้าย เช่นที่ อัฟกานิสถาน หรืออิรัก ซึ่งอเมริกาและพันธมิตรวางแผนถอนทหารเมื่อทุกอย่างเริ่มกลับเข้าสู่ความสงบ

ในทางกลับกัน เมื่อฝ่ายรัฐเรียกร้องให้พวกเขาลดความรุนแรงลงบ้าง แม้พวกเขาจะรับปากแต่ดูเหมือนความรุนแรงในพื้นที่จะเพิ่มมากกว่าเดิม ทั้งที่การลดความรุนแรง เป็นเรื่องที่ไม่ได้ติดขัดทางด้านกฎหมาย กฎระเบียบข้อใด แต่เป็นสิ่งที่ควรละเว้นไม่ทำความชั่ว โดยงดเว้นฆ่าผู้บริสุทธิ์ หรือทำลายทรัพย์สินต่างๆ ซี่งสิ่งเหล่านี้เรียกว่า คุณธรรม จริยธรรม ความเมตตาต่อชีวิตมนุษย์ด้วยกัน สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้พวกเขายังไม่สามารถกระทำได้ รัฐควรพิจารณาว่า จะเสียเวลาเจรจาสันติภาพกับกลุ่มโจรที่ไร้สัจจะ ต่อไปอีกหรือไม่

โดย อามีน

หน้าที่ที่เกิดจากจิตสำนึกของ จนท. ในจชต.

มีบางกลุ่มที่ไม่หวังดีต่อภาครัฐ โจมตี จนท.ของรัฐ ที่ปฏิบัติหน้าที่ใน จชต. ว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนประชาชนหรือลอบยิงชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วจนท.ของรัฐจะได้รับการมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำงานในพื้นที่ในด้านต่างๆอย่างเป็นระเบียบแบบแผน และนำมาซึ่งความสงบสุขของพื้นที่ จชต.เสียมากกว่า ดังจะเห็นจากภาพถ่ายที่นำมาเป็นตัวอย่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่มีใครเสียเวลาทำมากกมายเพียงเพื่อจะสร้างภาพ แต่มันควรจะเกิดจากสำนึกในหน้าที่ที่ตนได้รับมอบหมายเท่านั้นเอง

โดย อามีน

  มีหน้าที่เดินเท้ารักษาพื้นที่ให้ปลอดภัย

 

 เข้าพบปะครูสอนศาสนาและนักเรียน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ห่างไกลจากยาเสพติด

 

จัดชุดแพทย์และทันตกรรมเคลื่อนที่ออกให้บริการ

 

 

 

ดูแลรักษาชาวบ้าน

 

 

 

 

 

 

 

 

 คุ้มกันเด็กนักเรียนและผู้ปกครอง

 

 

 

ติดตามบุคคลเป้าหมายเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้าน

 

 

 

 

พิสูจน์ทราบพื้นที่ต้องสงสัย

 

 

 

 มีใช้กำลังบ้างเพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ (เจ้าหน้าที่ ยิงปะทะกับกลุ่มคนร้าย )

 

 

 

โจรใต้ปฏิเสธสันติภาพที่คนทั้งโลกแสวงหา

เป็นที่น่าสังเกตว่า ช่วงนี้ที่มีการเจรจาสันติภาพ พวกโจรใต้ยิ่งขยันสร้างสถานการณ์ร้ายมากกว่าเดิม เสมือนว่าพวกเขาไม่อยากได้สันติภาพที่คนทั้งโลกแสวงหา และเสมือนว่า พวกเขาอยากที่จะเห็นความรุนแรงเพิ่มขึ้นในพื้นที่ จชต. ดูจากสถิติยิ่งปรากฏชัดว่า พวกโจรใต้นิยมความรุนแรง ปฏิเสธสันติภาพอย่างชัดเจน ดังตัวอย่างห้วงเวลา ดังนี้
  - 27 พ.ค.วางระเบิด เจ้าหน้าที่ ตชด. บนสะพานลาคอ ม.1 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี
- 31 พ.ค. -วางระเบิดบริเวณคอสะพานใน อ.รือเสาะ เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร แต่เกิดความผิดพลาด ถูกระเบิดใส่เสียชีวิต

- 1 มิ.ย.โจรใต้ไม่ต่ำกว่า 20 คน ยิงถล่มเข้าใส่ฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ.ที่ 4807 กรมทหารพรานที่ 48

- 3 มิ.ย. ระเบิดชุดกำนันอิสมาแอล บือแน บนถนนเลียบคลองชลประทาน ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี...

- 3 มิ.ย. ยิง นายมะแอ เจะหะ ตำแหน่ง ผช.ผญบ. อ.ยะหริ่ง จว.ป.น. ปากทางเข้า บ.ชะเอาะ อ.ยะหริ่ง จว.ป.น

- 4 มิ.ย.วางระเบิดหน้า สำนักงานเทศบาลสุคิริน 2 ลูก ห่างกัน 10 นาที
         - 4 มิ.ย. วางระเบิดคณะนายอำเภอยะรัง ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง ไม่มีผู้บาดเจ็บ

- 5 มิ.ย. วางระเบิดแสวงเครื่องข้างกำแพง ร.ร.เทศบาล ต./อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จำนวน 2 ลูก

- 7 มิ.ย. ยิงเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยว ริมทางหลวงสาย 4085 (ยะหา-สะบ้าย้อย)

- 10 มิ.ย. วางระเบิด น้ำหนักประมาณ 5 กก. บริเวณสามแยก บ.บาบอมะ อ.ยะรัง จว.ปัตตานี จนท. เสียชีวิต 1 นาย

โดย อับดุล

ทหารหาญทำหน้าที่เพื่อปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ และแผ่นดินไทย

ทหารได้ทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินไทย ประชาชนรู้สึกอบอุ่นใจมากกว่าที่มี พวกเขาคอยปกป้อง ทหารเสี่ยงตายจากการปฏิบัติหน้าที่โดยเปิดเผย โดยไม่รู้ว่า ศัตรูจากที่มืดจะจู่โจมเมื่อไหร่ แต่ด้วยหน้าที่ ทหารทุกคนก็พร้อมที่จะเสียสละชีวิตเพื่อชาติ ขณะเดียวกัน เมื่อทหารเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ มีแต่ประชาชนสดุดีในความเสียสละและกล้าหาญเช่นกัน

แต่ก็มีองค์กรบางกลุ่ม พยายามสร้างภาพให้ทหารเป็นผู้ร้ายในสายตาประชาชน ใน จชต. โดยเลือกยกเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ มาตีแผ่ บิดเบือน ประหนึ่งว่า ทหารได้สร้างวีรกรรม ความเลวร้าย ไม่เว้นแต่ละวัน หากพิจารณาด้วยใจเป็นธรรม เราจะเห็นเพียงข่าวสารตาม หน้าหนังสือพิมพ์ หรือ ทีวี มีเพียงรายงานข่าว โจรใต้ ลอบวางระเบิดที่นั่นที่นี่ หรือ ลอบยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ หรือแม้แต่ จนท.ที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ อยู่เนืองๆ

อย่างไรก็ตาม ทหารก็ยังเป็นทหาร ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องชีวิตประชาชน และผืนแผ่นดินไทย จนกว่าชีวิตจะหาไม่ และวันนี้ การปฏิบัติหน้าที่ของ อส. ทพ. โยธิน พรหมช่วย สังกัดกองร้อย ทพ. ที่ 4804 จากปฏิบัติจู่โจมตรวจค้นเป้าหมาย ในพื้นที่ ม. 8 บ. ไอปาแย อ. เจาะไอร้อง จ. นราธิวาส เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา (23/5/56 ได้ทำให้ทหารคนหนึ่งหาญต้องสูญเสียอย่างไม่มีวันกลับ แต่ทว่าอยู่ในใจพี่น้องชาวไทยตลอดไป

โดย อามีน

 

 

โจรใต้เล่นนอกบทอีกครั้ง

หลังจากการเจรจาสันติภาพอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน 28 มี.ค. ที่ผ่านมา กลุ่ม บีอาร์เอ็น ก็เผยแพร่เงื่อนไขของตัวเองผ่านสื่อ เป็นครั้งที่สามแล้ว อ้างรัฐไทยตัวการก่อเหตุรุนแรงกับประชาชนปาตานี จึงเป็นต้นเหตุให้เกิด "บีอาร์เอ็น" ขึ้นมาต่อสู้ และอ้างเป็นตัวแทนประชาชน โดยคลิปดังกล่าวระบุว่าเผยแพร่เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2556 หลังจากเมื่อวันที่ 24 พ.ค.เพิ่งมีคลิปจาก ฮัจญี อาดัม มูฮำหมัด นูร และ นาย ฮัสซัน ตอยิบ เผยแพร่มาก่อนหน้านี้

ทั้งที่รัฐเปิดเวทีให้เจรจากับรัฐได้โดยตรง ก็ยังไม่ยอมให้ความร่วมมือด้วยดี กลับพยายามกระทำในสิ่งที่จะสร้างความขัดแย้งขึ้นมาอีกครั้งกับภาครัฐ ไม่สามารถทำตามกติกาสากลใดๆ ได้เหมือนอารยะประเทศ สมควรแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นโจรใต้ ที่ไม่เคยรักษาสัจจะวาจาใดๆ ได้

นอกจากนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากมีการเจรจา ก็คือสถานการณ์ในจชต. ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้น แสดงให้เห็นว่ากลุ่มใต้ ไม่มีความจริงใจในการเจรจาสันติภาพแต่อย่างใด แม้พวกเขาจะอ้างว่า ไม่สามารถสั่งการได้ทุกกลุ่ม แต่แท้จริงแล้ว อาจจะเป็นการปากว่าตาขยิบ เบื้องหน้าเจรจากับภาครัฐด้วยดี เบื้องหลังสั่งให้สร้างสถานการณ์ความรุนแรงเพิ่มขึ้นเพื่อฉกฉวยโอกาสและกดดันภาครัฐในการเจรจาเพื่อให้ฝ่ายตนได้ประโยชน์ แสดงถึงจิตใจชั่วร้าย ใช้ชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นเกมส์ต่อรองแม้อยู่ในช่วงการเจรจาสันติภาพ ซึ่งทุกคนน่าจะได้เห็นเหตุการณ์ร้ายสงบลงมากกว่านี้

โดย มีนา