โจรใต้ดูไว้.. จุบจบของผู้ก่อการร้ายระดับโลก

 คลิบวิดิโอที่อ้างว่าเป็นของกลุ่มอัล กออิดะฮ์ ออกแถลงการณ์ ประกาศฆ่าอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร  บางฝ่ายก็ว่าของจริง บางฝ่ายก็ว่าของปลอม  แต่อย่างไรก็ตาม การอ้างว่าคนกลางนั้น เป็น เป็น อาบู มูซาบ อัล ซากาวี ผู้นำเครือข่าย อัล กออิดะฮ์นั้น คงไม่ใช่ เพราะเขาได้เสียชีวิตไปตั้งแต่  8 มิ.ย. 49 ด้วยปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐ

          ประวัติการก่อการร้ายของเขาค่อนข้างโหดเหี้ยมและโชกโชนทีเดียว สมกับค่าหัว 25 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 750 ล้านบาทไทย ดังนี้

- 11 มี.ค. 04 ตำรวจสเปนเชื่อว่า เขามีบทบาทสำคัญในการวางระเบิดรถไฟในกรุงมาดริด ทำให้คนเสียชีวิต 191 คน

- ธ.ค. 04 วางแผน คาร์บอมในนาจาฟและคาร์บาล่า คนตาย 60 คน

- บงการลักพาตัวชาวต่างชาติในอิรักหลายครั้ง ส่วนใหญ่ตัวประกันถูกฆ่าตาย

และ 8 มิ.ย. 49 เขาถูกสหรัฐปฏิบัติการทางอากาศเสียชีวิตที่กรุงแบกแดด

          ถือว่าเขาเสียชีวิตหลายปีทีเดียวก่อนบินลาเดน หัวหน้าใหญ่จะถูกหน่วยซีลของสหรัฐสังหารเมื่อ ดือนพ.ค.ปี 54

          สิ่งที่น่าจะเป็นข้อเตือนใจของบรรดาผู้ก่อการร้ายทั้งหลายรวมถึงในพื้นที่ จชต. ก็คือ ไม่มีใครในหมู่พวกเขาอยู่ค้ำฟ้า เพราะการกระทำที่เป็นภัยความมั่นคงต่อรัฐและผู้บริสุทธิ์นั้น  ไม่มีหน่วยงานความมั่นคงใด จะนิ่งดูดายปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้เหิมเกริม แท้จริงแล้วพวกเขาย่อมถูกไล่ล่าอย่างไม่ลดละ เพื่อหยุดยั้งการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตอย่างแน่นอน

โดย อับดุล 

คนไทยไม่นิยมความรุนแรงยกเว้นบางกลุ่มในพื้นที่ จชต.

 นิสัยคนไทยโดยส่วนใหญ่รักสงบ นั่นจึงเห็นได้ว่า เมื่อมีเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับภาครัฐ เพราะไม่พอใจการปกครองของรัฐ มักเกิดการสูญเสียไม่มากนักเมื่อเปรียบกับประเทศอื่น โดยหลังปฏิวัติเมื่อปี 49 จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตเพียง 100 กว่าคน ขณะที่ประเทศอื่น เช่นซีเรีย มีผู้เสียชีวิตถึง 100,000 คน ประเทศอียิปต์ นับตั้งแต่ช่วงอาหรับสปริง จนถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,000 คน

แต่มีบางพื้นที่ภาคใต้ของไทย มีประชาชนบางกลุ่มต่อต้านภาครัฐเช่นเดียวกัน ตั้งแต่ปี 47 จนถึงปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตราว 5,000 กว่าคน ซึ่งเกิดจากการจับอาวุธต่อสู้ต่อต้านรัฐโดยการใช้อาวุธเข่นฆ่า ประชาชนผู้บริสุทธิ์ มากกว่าจะกระทำต่อ จนท.รัฐ จึงไม่รู้จะเรียกพวกเขาว่าเป็นนักต่อสู้กับรัฐได้อย่างไร  ขณะที่รัฐเองก็ไม่ได้ใช้กำลังเข้าปราบปรามหรือทำให้กลุ่มเหล่านี้สลายไปเช่นเดียวกับกรณีการชุมนุมประท้วงในพื้นที่อื่น ซึ่งถือเป็นความใช้แนวทางสันติเพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขยายตัวเพิ่มขึ้น

          การมองในมุมนี้ ทำให้เห็นอัตตลักษณ์ ของคนบางกลุ่มได้เป็นอย่างดี ที่ใช้แนวทางรุนแรง กดดันภาครัฐให้ยอมทำตามความต้องการของตัวเอง เพื่อให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก เพียงเพื่อหวังให้รัฐยอมจำนน แสดงให้เห็นการต่อสู้ที่ไร้มนุษยธรรม ต่ำกว่ามาตรฐานที่ชาวโลกจะยอมรับได้เป็นอย่างดี

โดย อับดุล

โจรใต้สะกดคำว่า “สันติภาพ” เป็นหรือไม่?

 การเจรจาแต่ละครั้งของกลุ่มบีอาร์เอ็น ดูแล้วเป็นการยื่นเงื่อนไขที่ หวังเพียงผลประโยชน์ฝ่ายตน (เจรจากันมาแล้ว 3 ครั้ง เมื่อ 29 มี.ค.ม 28 เม.ย. และ 13 มิ.ย.56) แม้ครั้งล่าสุดเมื่อ 13 มิ.ย.เห็นพ้องกันในการลดเหตุรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน แต่ฝ่ายบีอาร์เอ็นได้ยื่นเงื่อนไข 8 ข้อแลกกับการยุติการก่อเหตุรุนแรงตลอดเดือนรอมฎอน และ 10 วันแรกของเดือนชาวัล เช่น ให้รัฐบาลไทยถอนทหาร ตำรวจจากภาคอื่นออกจากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 5 อำเภอของ จ.สงขลา แต่ไทยได้ปฏิเสธเงื่อนไขทั้งหมด คาดว่าไทยเห็นว่าความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ผิดหลักการเจรจาที่ฝ่ายก่อเหตุควรหยุดความรุนแรงไว้ชั่วคราว

 

แต่โจรใต้ก็คือโจร ไม่สนใจ คำว่า “สันติภาพ” นอกจากสร้างสถานการณ์รุนแรงแล้ว ยังบิดเบือนใส่ร้ายเพื่อโจมตีไทย โดยเมื่อ 9 ก.ค. ก่อนรอมฎอมหนึ่งวัน ได้ติดป้ายฝ้าเป็นภาษามลายู เกือบ 100 จุดในทุกอำเภอในสาม จชต. ว่าไทยไร้สัจจะและ “นักล่าอาณานิคมสยาม” หรือ เจ้าอาณานิคมสยาม” เหมือนแกนนำบีอาร์เอ็นกลุ่มนายฮัสซันใช้ในการแถลงผ่านเว็บไซต์ยูทูป เป็นบทสรุปว่าเราจะหวังอะไรกับมาตรฐานของโจรใต้ที่เป็นได้เพียงโจรใต้ มิใช่ผู้ต่อสู้ที่ต้องการสันติภาพเหมือนชาวโลกทั่วไป

 

 

 

โดย มีนา

ความหวัง จชต.สงบ รอมฎอน.. เดือนแห่งการละเว้นความชั่วทั้งปวงอย่างแท้จริง

เชื่อว่าพี่น้องมุสลิมใน จชต.มีความหวังว่า สันติสุขจะกลับคืนมาอีกครั้ง ด้วยอัลลอฮ์ได้ทรงประทานเดือนที่ประเสริฐเดือนหนึ่งในหนึ่งปี เรียกว่าเดือนรอมฎอน ซึ่งถือเป็นเดือนแห่งความเมตตา จูงใจให้ผู้ศรัทธาทำความดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดือนอื่นๆ หัวใจจะจดจ่ออยู่กับการแสดงความเคารพภักดี(อิบาดะฮฺ)ต่ออัลลอฮฺและหันไปหาพระองค์มากขึ้น ด้วยการอ่านอัลกุรอาน และการทำอิบาดะฮฺชนิดต่างๆ ซึ่งมุสลิมทุกคนต้อง งดอาหาร น้ำ งด ละ เลิก จากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมด ทำความดี บริจาคทานมากๆ

ดังนั้น ในเดือนอันเป็นศิริมงคลนี้ความชั่วต่างๆ จะลดน้อยลงในแผ่นดิน โดยที่บรรดาหัวหน้าชัยฏอนจะถูกล่ามโซ่ และถูกพันธนาการ พวกมันจะไม่มีช่องทางที่จะล่อลวงหรือชักชวนมนุษย์ให้กระทำความผิดหรือความชั่วได้ เพราะบรรดามุสลิมกำลังมีภารกิจอยู่กับการถือศีลอด ซึ่งจะขจัดหรือปราบปรามความใคร่ต่างๆ ให้หมดสิ้นไป

โดย ไลลา