วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

ไทยให้สิทธิเสรีภาพในการดำรงชีวิตแก่มุสลิม จชต.อย่างดียิ่ง

ฟังความเห็นของชาวมุสลิมพม่า นายอับดุล รอแม (นามสมมุติ) ที่ได้ทำงานที่ภาคใต้ของไทยและมาเลย์มาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี กล่าวถึงปัญหาของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ กับปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดภาคใต้  เห็นว่าไม่เหมือนกันเลย เพราะชาวมุสลิมโรฮิงญาที่โดนรัฐบาลพม่ากดขี่ทุกอย่าง ไม่ยอมรับเป็นพลเมือง ต้องการขับไล่ออกจากประเทศ แต่ที่ภาคใต้ คนมุสลิมไม่ได้ถูกกดขี่จากรัฐบาลไทย และให้โอกาสคนอิสลามทุกอย่าง เพราะรัฐบาลไทยยอมรับว่าคนชายแดนใต้เป็นคน

         ไม่เคยเห็นว่ารัฐบาลไทยขับไล่คนสามจังหวัดออกจากประเทศ ไม่เคยเห็นว่าความต่างของคนอิสลามในภาคใต้จะทำให้พวกเขาไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ได้ ยิ่งทุกวันนี้รัฐบาลกลับเอาใจคนมุสลิมมากขึ้นเสียอีก เพื่อต้องการล้างผิดที่ได้สร้างความไม่เป็นธรรม ซึ่งยังถือว่าเล็กน้อยถ้าเทียบกับสิ่งที่ชาวโรฮิงญาโดนกระทำ"

            ความจริงแล้วกลุ่มคนไม่หวังดีใน จชต.บางกลุ่ม ไม่เคยเหลียวมองชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสในประเทศรอบๆ บ้านเลยหรือว่า  เขามีชีวิตที่ลำบากยากเข็ญเพียงใดในการดำรงชีวิตในประเทศของพวกเขา ดังเช่น  มุสลิมโรฮิงญา ต้องการเป็นพลเมืองพม่า แต่พม่าไม่ยอมรับ และถูกกดขี่ข่มเหงต่างๆ นาๆ ต่างจากมุสลิมมาลายูบางกลุ่มในจชต.ได้สิทธิเสรีภาพทุกสิ่งทุกอย่างในการเป็น คนไทย แต่ปฏิเสธที่จะเป็นคนไทย และทำการก่อเหตุร้ายรายวันเพื่อขอแบ่งแยกดินแดน ถือเป็นการเนรคุณแผ่นดินที่ให้พวกท่านได้อาศัยอย่างสุขสบายอย่างน่าอดสูใจ ยิ่งนัก

โดย อามีน 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น