วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เราควรมีทัศนคติในด้านบวกเพื่อยอมรับความเป็นจริงของปัญหา จชต.หรือไม่?


มีคนกล่าวว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดนนั้นจริงๆ เขาก่อเหตุร้ายไปนั้นแท้ที่จริงเขาคิดดี คือคิดแบ่งแยกดินแดนเพราะเขาคิดว่าทางการไทยไม่ปกครองอย่างเป็นธรรม เขาจึงต้องการแยกตัวไปปกครองกันเอง ถ้าหากเขาคิดเช่นนั้นจริง มันก็ตรงกับวัตถุประสงค์ของทางการไทยที่ต้องการให้พี่น้องคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง ชาวพุทธ หรือ มุสลิม
เพียงแต่ทุกวันนี้สมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอาจยังไม่เข้าใจกระบวนการทำงานของทางการไทยว่า การปกครองคนหมู่มากมันย่อมเกิดอุปสรรคย่อมต้องประสบปัญหา   ไม่มาก ก็น้อย  ทั้งจากเสถียรภาพทางการเมืองที่มาจากหลายพรรค การเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาลบ่อยครั้ง ทำให้นโยบายอาจไม่ต่อเนื่อง  และ ขรก.ในพื้นที่แต่ละแห่งย่อมมีทัศนคติ ความเชื่อ ไม่เหมือนกัน มีผลต่อการทำงานสนองนโยบายรัฐบาลทั้งสิ้น
ดังนั้น หากจะกล่าวว่า พื้นที่ จชต. มักไม่ได้รับการเอาใจใส่เหลียวแลจากภาครัฐ ย่อมเป็นการกล่าวที่ไม่ถูกต้องนัก ด้วยเหตุที่ว่า พื้นที่ จชต. ได้รับการจัดสรรในภารกิจภาคใต้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2547-2556  โดยเฉพาะการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ จชต. ที่เป็นภารกิจผูกพัน เช่น การให้ความช่วยเหลือแก่บุตรของผู้ที่ได้รับผล กระทบจนจบปริญญาตรี หรืออายุครบ 25 ปี ทั้งยังต้องจ่ายค่ายังชีพรายเดือนอีกด้วย สิ่งนี้ย่อมแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของภาครัฐต่อพี่น้องใน จชต. เป็นอย่างดี
ที่สำคัญเราจะเห็นว่าในพื้นที่ประเทศไทย ไม่ว่าจะภาคใด เหนือ อีสาน หรือใต้ ต่างล้วนแต่ต้องการการพัฒนาจากภาครัฐทั้งสิ้น ภาคอื่นก็ย่อมมีปัญหาแตกต่างกันออกไป โดยเราจะเห็น ความเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชนภาคอื่น ซึ่งดูเหมือนจะรุนแรงกว่าเสียด้วยซ้ำไป จากม็อบที่ประท้วงภาครัฐอยู่บ่อยครั้ง หากพวกเขาไม่ได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็วทันใจ ดังนั้น เป็นที่แน่ชัดว่าเราจะให้ภาครัฐทุ่มเทเอาใจใส่เพียงภาคใดภาคหนึ่งย่อมเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มไม่หวังดีใน จชต. จะนำไปขยายผล เพื่อป่าวประกาศว่าภาครัฐไม่ให้ความเป็นธรรม ก็จะถือว่าภาครัฐเอง ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากทัศนคติที่คับแคบดังกล่าวเช่นกัน
โดย อับดุล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น